ระบบการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ พร้อมวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะสม และคุ้มค่า
ระบบการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ
สำหรับระบบเครื่องฟอกอากาศสามารถแบ่งได้เป็น 5 ระบบ ดังต่อไปนี้
1. Air filters ระบบแผ่นกรองอากาศจะช่วยในการดักจับเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส ฝุ่นละออง ซึ่งก่อให้เกิดภูมิแพ้ ส่วนใหญ่จะทำจากกระดาษ เส้นใยชนิดต่าง ๆ แต่ที่นิยมใช้มากที่สุดคือ การใช้แผ่นกรองจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส เพื่อดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน จุดเด่นคืออายุเฉลี่ยในการใช้งานมากกว่า 3 ปี
2. Electrostatic Precipitator ระบบกรองอากาศที่ปล่อยไฟฟ้าประจุลบมาดักจับฝุ่นละอองหรืออนุภาคขนาดเล็กซึ่งเป็นประจุบวกให้เป็นกลุ่มก้อน ส่งผลให้อนุภาคเล็กเหล่านั้นมีน้ำหนักมากแล้วตกลงสู่พื้นโดยที่มนุษย์ไม่หายใจเข้าไป
3. Gas-Phase air filters เป็นระบบที่ใช้ในการสลายกลิ่นเหม็นต่าง ๆ โดยใช้สารเคมีที่สามารถดูดซับมลพิษมาช่วยในการทำงาน ส่งผลให้เมื่อเปิดเครื่องแล้วกลิ่นไม่พึงประสงค์จะหายไปอย่างรวดเร็ว
4. Ozone generator จัดเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่นำระบบโอโซนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยโอโซนจะกำจัดอนุภาคของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี และกำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากโอโซนส่งผลเสียต่อร่างกายของมนุษย์จึงไม่ค่อยมีผู้ใช้เครื่องฟอกอากาศประเภทนี้เท่าใดนัก
5. UV Light ระบบการนำรังสียูวีมาใช้ในการกำจัดเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัสและฝุ่นละอองในอากาศที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ส่งผลให้สุขภาพแย่ลง
ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ
1. ป้องกันการเกิดสารก่อภูมิแพ้ ผู้ที่ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้เมื่อสัมผัสและสูดฝุ่นเข้าไปแม้ในปริมาณเล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดอาการที่แย่ลงได้ และในระยะเวลายาวนานต่อเนื่อง อาจทำให้โรคภูมิแพ้เป็นมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อชีวิต โดยเครื่องฟอกอากาศจะช่วยดักจับฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ แล้วจึงปล่อยอากาศบริสุทธิ์ไปยังพื้นที่ซึ่งเปิดเครื่อง
2. ช่วยลดขนของสัตว์เลี้ยง ขนและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว รวมถึงน้ำลายของสัตว์เลี้ยงก่อให้เกิดเชื้อโรคในบ้าน และส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้เลี้ยงได้ แม้ผู้ที่ไม่มีอาการแพ้หากได้รับสิ่งเหล่านี้ในระยะยาว อาจทำให้เกิดผลเสียต่อปอดได้อีกด้วย แต่เครื่องฟอกอากาศจะทำการกำจัดและแยกสารก่อภูมิแพ้ด้วยแผ่นกรอง เพื่อให้ผู้เลี้ยงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก
3. ลดความเสี่ยงอันตรายของหญิงตั้งครรภ์ สำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรระมัดระวังอันตรายจากมลพิษ เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์จำนวนมากเสี่ยงอันตรายต่อการสูดดมจุลินทรีย์และแบคทีเรีย อาจจะก่อให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจของทารก และในบางครั้งอาจเกิดปัญหาคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย ยกตัวอย่างโรคร้ายที่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ได้แก่โรค Toxoplasma gondii ซึ่งเป็นปรสิตที่อาศัยอยู่ในเซลล์เยื่อบุลำไส้ของแมว ซึ่งมีโอกาสสูดดมได้หากในบ้านมีสัตว์ชนิดนี้ โดยการใช้เครื่องฟอกอากาศจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้มากถึง 99 เปอร์เซ็นต์
4. ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ปัจจุบันมีกลิ่นไม่พึงประสงค์รบกวนจิตใจจากหลายต่อหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับชื้น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นควัน กลิ่นถังขยะ กลิ่นของสัตว์เลี้ยง กลิ่นมูลสัตว์เลี้ยงซึ่งบางครั้งอาจจะส่งกลิ่นเหม็นทั่วห้อง หรือเกาะติดแน่นบริเวณโซฟา การสูดดมกลิ่นเหม็นเป็นเวลานานจะทำให้ประสาทการรับกลิ่นเสื่อมสภาพ และการตอบสนองต่อกลิ่นอาจช้าลงเนื่องจากเริ่มชินกับกลิ่นเหล่านั้น การใช้เครื่องฟอกอากาศมีข้อดีในการช่วยลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี
5. ลดการเกิดอันตรายจากสารเคมีชนิดต่าง ๆ สิ่งแวดล้อมรอบด้านเต็มไปด้วยสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นสารฟอกขาว กลิ่นน้ำมัน สีทาบ้าน สีสเปรย์ ซึ่งการใช้เครื่องฟอกอากาศจะช่วยแก้ปัญหากลิ่นจากสารเคมีที่ทำลายระบบประสาทได้หากสูดดมต่อเนื่อง โดยสารเคมีบางชนิดมีฤทธิ์กัดกร่อน ทำให้เยื่อจมูกอักเสบ และซึมผ่านเนื้อเยื่อเข้าสู่กระแสเลือด
วิธีเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ห้อง
การเลือกเครื่องฟอกอากาศควรมีขนาดเหมาะสมกับพื้นห้อง โดยที่ตัวเครื่องจะมีการระบุชัดเจนว่ารองรับพื้นที่กี่ตารางเมตร ดังนั้น สิ่งที่ผู้ซื้อควรทำคือ การคำนวณพื้นที่ของห้องให้แน่นอนก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศะ ผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศดีหรือไม่ สิ่งที่ควรตระหนักอย่างยิ่งคือ การเลือกใช้เงินอย่างคุ้มค่าเพื่อรักษาสุขภาพในระยะยาว เพื่อป้องกันการเกิดโรคซึ่งมีสาเหตุมาจากปัญหามลพิษ ซึ่งปัจจุบันประชากรบนโลกป่วยด้วยโรคอันเกิดจากมลพิษทางอากาศและเสียชีวิตเฉลี่ย 7 ล้านคนต่อปี รักษาสุขภาพวันนี้ดีกว่าเสียใจภายหลัง